มาเป็นเพื่อนกันกับอีสานเดฟ
เรารับทำและออกแบบเว็บไซต์ สำหรับธุรกิจทุกประเภท ปรึกษาฟรี !
SEO ต่างจากการยิงแอดอย่างไร? แบบไหนเหมาะกับธุรกิจคุณ
คำถามที่เจ้าของธุรกิจมักสงสัยเสมอคือ “ควรทำ SEO หรือ ยิงแอด ดีกว่ากัน?” สองกลยุทธ์นี้ต่างมีเป้าหมายเดียวกัน คือ เพิ่มการมองเห็นและยอดขาย แต่แนวทางและผลลัพธ์ต่างกันโดยสิ้นเชิงจะเป็นอย่างไรนั้นมาดูกัน
ทุกวันนี้ธุรกิจแทบทุกประเภทหันมาลงทุนกับ “การตลาดออนไลน์” กันอย่างจริงจัง ไม่ว่าจะเป็นร้านค้าเล็ก ๆ จนถึงองค์กรขนาดใหญ่ แต่คำถามที่เจ้าของธุรกิจมักสงสัยเสมอคือ “ควรทำ SEO หรือ ยิงแอด ดีกว่ากัน?” สองกลยุทธ์นี้ต่างมีเป้าหมายเดียวกัน คือ เพิ่มการมองเห็นและยอดขาย แต่แนวทางและผลลัพธ์ต่างกันโดยสิ้นเชิง การเข้าใจความแตกต่างของ SEO และ การยิงแอดจะช่วยให้คุณวางแผนการตลาดได้คุ้มค่าและยั่งยืนที่สุด
SEO คืออะไร และทำไมถึงสำคัญ

SEO หรือ Search Engine Optimization คือการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ติดอันดับผลการค้นหาบน Google แบบธรรมชาติ (Organic Search) โดยไม่ต้องซื้อโฆษณา
SEO ประกอบด้วย 3 องค์ประกอบหลัก
- On-Page SEO การปรับโครงสร้างและเนื้อหาในเว็บไซต์ เช่น หัวข้อ Meta Tag Keyword และรูปภาพ
- Off-Page SEO การสร้าง Backlink คุณภาพจากเว็บไซต์อื่น เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ
- Technical SEO ปรับความเร็วเว็บไซต์ โครงสร้างข้อมูล และการแสดงผลบนมือถือ
หากมีคนค้นคำว่า “เอเจนซี่การตลาดดิจิทัล” แล้วเจอเว็บไซต์ของ Blupaper บนหน้าแรก — นั่นคือผลลัพธ์ของ SEO ที่ทำงานอย่างถูกต้อง
ข้อดีของ SEO คือ
- ไม่ต้องจ่ายเงินต่อคลิก (เหมือนโฆษณา)
- สร้างความน่าเชื่อถือระยะยาว
- เป็นช่องทางการตลาดที่ให้ผลต่อเนื่องแม้หยุดทำโฆษณา

การยิงแอดคืออะไร และทำงานอย่างไร
การยิงแอดหรือ Paid Ads คือการซื้อโฆษณาเพื่อให้คอนเทนต์ของคุณปรากฏต่อกลุ่มเป้าหมายผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ เช่น Google Ads, Facebook Ads, TikTok Ads หรือ Instagram
โฆษณาประเภทนี้ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงลูกค้าได้รวดเร็ว เห็นผลภายในไม่กี่ชั่วโมงหลังจากเปิดแคมเปญ เหมาะอย่างยิ่งกับการโปรโมตสินค้าใหม่หรือโปรโมชั่นระยะสั้น
ข้อดีของการยิงแอด คือ
- เห็นผลทันที วัดผลได้แบบเรียลไทม์
- สามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจน เช่น อายุ เพศ พฤติกรรมการซื้อ
- เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการยอดขายเร็ว
เปรียบเทียบ SEO vs การยิงแอด
เพื่อให้เข้าใจง่าย ๆ ถึงความแตกต่าง ลองมาดูตารางเปรียบเทียบด้านล่างนี้กัน
| หัวข้อ | การทำ SEO | การยิง ADS |
| งบประมาณ | ลงทุนด้านเนื้อหาและโครงสร้างเว็บ ใช้เวลานานแต่คุ้มค่าระยะยาว | ต้องใช้งบต่อเนื่อง ยิ่งงบมาก ยิ่งเห็นผลไว |
| ระยะเวลาเห็นผล | 3–6 เดือนขึ้นไป | เห็นผลทันทีหลังเปิดแคมเปญ |
| ความยั่งยืน | อยู่ได้นานแม้หยุดทำ (ถ้าเนื้อหาคุณภาพ) | หยุดยิงแอด = หยุดการมองเห็น |
| ความน่าเชื่อถือ | ผู้ใช้มองว่าเป็นผลลัพธ์จริง ไม่ใช่โฆษณา | มักถูกมองว่าเป็น Ads (โปรโมชัน) |
| การวัดผล | ใช้ Google Analytics และ Search Console | ใช้ Ads Manager ของแต่ละแพลตฟอร์ม |
| เหมาะกับใคร | ธุรกิจที่ต้องการเติบโตระยะยาว สร้างแบรนด์แข็งแรง | ธุรกิจที่ต้องการยอดขายเร่งด่วน หรือทดสอบตลาด |
สรุปสั้น ๆ แบบเข้าใจง่าย ๆ คือ การทำ SEO สร้างฐานระยะยาว แต่การยิงแอดก็สร้างยอดขายรวดเร็ว ธุรกิจที่เติบโตยั่งยืนควรใช้ทั้ง 2 เครื่องมือควบคู่กัน
แล้วแบบไหนเหมาะกับธุรกิจของคุณ?
การเลือกกลยุทธ์ที่ถูกต้องขึ้นอยู่กับเป้าหมายและงบประมาณของธุรกิจคุณ เช่น
- ธุรกิจเริ่มต้นใหม่ เริ่มจากยิงแอดเพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ เก็บข้อมูลลูกค้า และทดสอบตลาด
- ธุรกิจที่มีเว็บไซต์อยู่แล้ว เริ่มลงทุนใน SEO เพื่อให้เว็บไซต์เติบโตอย่างมั่นคงและลดค่าโฆษณาในอนาคต
- ธุรกิจที่ต้องการโตแบบก้าวกระโดด ใช้ SEO และ Ads ควบคู่กัน ให้ Ads สร้างทราฟฟิก และ SEO ช่วยเก็บลูกค้าในระยะยาว
ตัวอย่าง เช่น ร้านค้าออนไลน์สามารถยิงแอดโปรโมชันระยะสั้นควบคู่กับการทำ SEO คีย์เวิร์ดสินค้าหลัก เช่น “ครีมลดสิว”, “ครีมกันแดดเกาหลี” เพื่อรักษาการมองเห็นแม้หยุดยิงแอด
สรุป SEO กับยิงแอด ไม่ใช่คู่แข่ง แต่คือคู่หูทางการตลาด
การตลาดออนไลน์ที่ดีไม่จำเป็นต้องเลือกข้าง เพราะ SEO และ Ads ต่างเติมเต็มกัน
- SEO สร้างรากฐานให้ธุรกิจเติบโตระยะยาว
- Ads เร่งยอดขายและการรับรู้แบรนด์ในทันที
สิ่งสำคัญคือการวางแผนและจัดสรรงบให้เหมาะกับเป้าหมายธุรกิจ
อยากรู้ว่าธุรกิจของคุณควรเริ่มจาก SEO หรือ ยิงแอดก่อนดี? ให้ทีมผู้เชี่ยวชาญของ Blupaper ช่วยวิเคราะห์และวางกลยุทธ์ให้ฟรี ปรึกษาฟรีวันนี้ ได้ที่ https://blupaper.co/
