“สุขภาพดีมีค่ายิ่งกว่าทอง” คำกล่าวนี้คงไม่มีทางเกินจริงเลย เพราะต่อให้มีเงินทองมากมายแต่ร่างกายกลับป่วยอยู่ตลอดเวลา เงินที่มีอยู่ก็คงจะหมดไป จะดีกว่าไหมหากเราเลือกมองหา ประกันสุขภาพเหมาจ่าย เพื่อเตรียมตัวรับมือกับค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายก็มีหลายแบบ แล้วแบบไหนกันนะที่เหมาะกับไลฟ์สไตล์และการใช้ชีวิตของเรา วันนี้เราจะมาให้ข้อมูลสุด Exclusive ที่ไม่เคยมีใครบอกคุณมาก่อน มาดูกันเลย
1.วงเงินคุ้มครอง
หลาย ๆ คนอาจจะมีความรู้สึกไม่ค่อยอยากทำประกันสุขภาพเหมาจ่าย เพราะบังคับวงเงินคุ้มครองที่อาจจะบางครั้งทำให้เรารู้สึกว่ามากเกินความจำเป็น แต่อันที่จริงแล้ว มีประกันสุขภาพเหมาจ่ายหลายตัวที่สามารถให้เราเลือกปรับวงเงินคุ้มครองได้ตามใจ เราอาจจะประเมินจากสถิติง่าย ๆ จากการเข้าโรงพยาบาลของเราในแต่ละปีมีอัตรามากน้อยแค่ไหน และส่วนใหญ่เราใช้บริการแบบไหนจากโรงพยาบาลเป็นหลัก
2.เบี้ยไม่แพง
หากคุณประกอบอาชีพเป็นพนักงานบริษัท แต่ประกันที่ทางองค์กรหรือบริษัทนั้นจัดหามาให้ไม่เพียงพอและตอบโจทย์การรักษา หรืออาการเจ็บป่วยของคุณ เราก็สามารถเลือกซื้อ ประกันสุขภาพเหมาจ่าย เพิ่มได้ และอาจจะได้จ่ายค่าเบี้ยประหยัดขึ้นด้วย
3.แบ่งจ่ายได้ตามสะดวก
เพราะแต่ละคนมีภาระค่าใช้จ่าย รายรับที่ไม่เท่ากัน ไม่ว่าจะเป็นสายฟรีแลนซ์ที่บางเดือนก็ดี บางเดือนก็ดีน้อยหน่อย หรือจะเป็นพนักงานออฟฟิศที่รับเงินเดือนประจำ ไปจนถึงเจ้าของธุรกิจที่รายได้ก็ต้องพึ่งจากผลประกอบการในแต่ละเดือน การสามารถเลือกแบ่งจ่ายเบี้ยประกันได้ตามสะดวกก็จะช่วยอำนวยความสะดวกทางด้านการเงินได้มากขึ้น อาจจะเลือกจ่ายเป็นรายเดือน หรือจะราย 3 เดือน แม้แต่ราย 6 เดือนก็ยังทำได้ ไม่ต้องเป็นกังวลทั้งเรื่องสุขภาพและค่าใช้จ่ายทั้งคู่
4.คุ้มครองชีวิตและโรคร้าย
ประกันสุขภาพเหมาจ่าย ที่คุณไม่ควรพลาด คือประเภทที่พ่วงความคุ้มครองชีวิตและ ความคุ้มครองโรคร้ายแรงมาเพิ่มเติมอีกด้วย ในฐานะที่เราเป็นเพียงแค่คนธรรมดา จะดีกว่าไหมถ้าไม่ต้องทำนายอนาคตและเลือกทำประกันที่ให้ความคุ้มครองแบบรอบด้าน
5.เพิ่มความคุ้มครองได้ตามความเหมาะสม
บางคนก็ป่วยนิด ๆ หน่อย ๆ แต่ให้ตายก็ไม่นอนหรอกนะโรงพยาบาล หรือบางคนทั้งปีท่าดีไม่มีแววป่วยแต่สุดท้ายอาจจะล้มหมอนนอนเสื่อเลยก็เป็นได้ พอไม่สบายหยุดอยู่เฉย ๆ ก็อาจจะทำให้ขาดรายได้ได้ ประกันสุขภาพหลาย ๆ ตัว สามารถให้เราปรับตามความเหมาะสมได้ว่าอยากได้ความคุ้มครองแบบไหนเพิ่มเติม อาจจะเป็นค่าชดเชยในกรณีที่เราไม่ได้ทำงานประจำ หรือ จะเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มด้าน OPD ไปจนถึงโรคร้ายแรงเลยก็ตาม
6.ผลประโยชน์ทางด้านภาษี
ข้อดีเยอะแยะขนาดนี้ แต่มันยังไม่จบ ! ขอมาต่อด้วยข้อสุดท้ายที่จะทำให้ทุกคนตาลุกวาว นั่นก็คือการได้ผลประโยชน์ทางด้านภาษี นอกจากจะได้ความคุ้มครองทางด้านสุขภาพแล้ว เรายังสามารถใช้เป็นส่วนลดหย่อนทางภาษีเพิ่มเติมได้อีกด้วย ทั้งนี้ก็เป็นไปตามเงื่อนไขที่กรมสรรพากรกำหนด คุ้มแบบคูณสอง