สมัยก่อนการทาสีเล็บมือเล้บเท้าอาจดูไม่เรียบร้อยแต่ปัจจุบันทรรศนคติดังกล่าวเปลี่ยนไปแล้วนอกจากนั้นยังมีสีให้เลือกมากมายตามความเหมาะสมกับกาลเทศะ
การทาสีเล็บไม่ยากอย่างที่คิดหากได้ฝึกฝนทักษะตามขั้นตอนอย่างง่ายๆ คุณสามารถทาสีเล็บให้สวยงามเองได้
ขั้นตอนการทาเล็บ
1. สำรวจความสะอาดบนแผ่นเล็บ ควรล้างมือและเล็บด้วยน่ำสบู่ ขจัดความมันออกจากผิวเล็บเพื่อให้สียาทาเล็บติดำด้ง่าย
2. ทา base coat รอให้แห้งสนิทก่อนทายาทาเล็บ
3. การทาสีเล็บ หากเป็นการทาเล็บให้ผู้อื่นการทาเล้บนิ้วขวาควรเริ่มทาจากนิ้วก้อยเรื่อยไปจนถึงนิ้วหัวแม่มือ การทาเล้บมือซ้ายควรทาจาดนิ้วหัวแม่มือไปยังนิ้วก้อย เพื่อไม่ให้สีที่ทาแล้วไปเลอะ หากเป็นการทาเล็บให้ตัวเอง ควรวางฝ่ามือลงบนโต๊ะ ยกนิ้วขั้นจากโต๊ะ ทำมุม 45 องศาเซลเซียสเพื่อความสะดวกในการทา เริ่อมทาจากนิ้วก้อยไปหานิ้วหัวแม่มือเหมือนกันทั้งสองข้าง โดยวางปลายภู่กันที่โคนเล็บ และทาออกจากโคนเล็บไปหาปลายเล็บ (ทาออกนอกลำตัว) หรือผู้ที่ถนัดทาสีเล็บให้คนอื่น การทาเล็บเองสามารถทำได้เหมือนกับการทาเล็บให้ผู้อื่น โดยงอนิ้วของตัวเองเข้าหาตัว ปากพู่กันสีทาเล็บจากโคนเล็บลงในแนวดิ่ง (ทาเข้าหาลำตัว) ควรใช้ปลายนิ้วก้อยแตะที่อุ้งมือเพื่อช่วยให้ทาได้ง่ายขึ้น
- การทาสีเล็บเริ่มด้วยการการกะปริมาณของน้ำยาทาเล็บให้เหมาะกับความกว้างยาวของเล็บ ปาดขนแปรงกับปากขวดยาทาเล็บให้ขนแปรงแบนเพื่อทาได้ง่ายขึ้น หลักทั่วไปจะเริ่มทาจากโคนไปยังปลายเล็บ เริ่มจากด้านซ้ายของเล็บ ทาเป็นแนวลงไปจากซ้ายไปขวาจนเต็มทั้งเล็บ
ในกรณีที่เล็บสั้น เริ่มวางขนแปรงจกาโคนเล็บลากลงไปยังปลายเล็บอย่างเบามือ ไม่ควรกดขนแปรงแรง เพราะจะทำให้สีเล็บไม่เรียบ
ในกรณีที่เล็บยาว ควรทาทีละครึ่งเล็บ โดยเริ่มจากกลางเล็บลงไปยังปลายเล็บก่อน แล้วค่อยขยับขึ้นมาทาจากโคนเล็บลงไปทับสีที่ทาไว้แล้วลากจนถึงปลาย เพราะหากทาตั้งแต่โคนเล็บ น้ำยาอาจหมดก่อน ซึ่งจะทำให้เห็นเป็นรอยไม่สวยเมื่อทาครบหมดทั้งเล็บ ควรทิ้งไว้ให้แห้ง และทาสีเดิมทับอีกครั้ง
4. ทา top coat เพื่อเคลือบเพิ่มความเงางามป้องกันไม่ให้เล็บเป็นรอยขีดข่วนได้ง่ายและยังช่วยให้สีเล็บสวยได้นานขึ้น
5. เช็ดสียาทาเล็บส่วนเกิน โดยใช้สำลีพันปลายตะไบเหล็กชุบน้ำยาล้างเล็บ และเช็ดส่วนเกินให้เรียบร้อย
ที่มา : พิมลรัตน์ ตรีรัตนกิตติกุล. 2545. เล็บ. สุดสัปดาห์สำนักพิมพ์. กรุงเทพฯ