เตรียมตัวยังไงก่อนทำ IUI ให้มีโอกาสสำเร็จมากที่สุด ?

สำหรับคู่รักที่วางแผนมีบุตร แต่พยายามมานานแล้วยังไม่สำเร็จ “การทำ IUI” หรือ การฉีดเชื้ออสุจิเข้าสู่โพรงมดลูก (Intrauterine Insemination) ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการตั้งครรภ์ได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยใช้เทคนิคทางการแพทย์เข้าช่วยเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ก่อนตัดสินใจทำ IUI สิ่งสำคัญคือการเตรียมร่างกายและจิตใจให้พร้อม เพื่อให้กระบวนการนี้มีประสิทธิภาพและเพิ่มโอกาสสำเร็จมากที่สุด

ทำความเข้าใจเบื้องต้นก่อนทำ IUI

การทำ IUI เหมาะสำหรับคู่รักที่มีปัญหามีบุตรยากในระดับเบื้องต้น เช่น อสุจิไม่แข็งแรงมากนัก ท่อนำไข่ฝ่ายหญิงยังเปิดปกติ หรือมีปัญหาเรื่องการตกไข่ไม่สม่ำเสมอ โดยแพทย์จะคัดเลือกอสุจิที่แข็งแรงที่สุดแล้วฉีดเข้าโพรงมดลูกในช่วงที่ไข่ตก เพื่อให้การปฏิสนธิเกิดขึ้นง่ายขึ้นภายในร่างกาย

1. ตรวจสุขภาพทั้งคู่ก่อนเริ่มทำ IUI

ขั้นตอนแรกที่ไม่ควรมองข้ามคือการตรวจสุขภาพทั้งฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย เพื่อประเมินความพร้อมของร่างกาย เช่น

• ฝ่ายหญิงตรวจฮอร์โมน ประจำเดือน การตกไข่ และดูความสมบูรณ์ของมดลูก
• ฝ่ายชายตรวจคุณภาพอสุจิ ทั้งจำนวน การเคลื่อนไหว และรูปร่าง

ผลตรวจเหล่านี้จะช่วยให้แพทย์วางแผนกระบวนการทำ IUI ได้แม่นยำยิ่งขึ้น และลดความเสี่ยงจากปัจจัยที่อาจส่งผลต่อการตั้งครรภ์

2. ปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตให้เหมาะสม

การเตรียมร่างกายก่อนทำ IUI ควรเริ่มจากพื้นฐานของสุขภาพ เช่น

• นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ไม่อดนอน
• รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ โดยเฉพาะโปรตีน ผักใบเขียว และผลไม้สด
• งดสูบบุหรี่ งดดื่มแอลกอฮอล์ และลดคาเฟอีน
• ออกกำลังกายเบา ๆ สม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงและระบบไหลเวียนโลหิตดีขึ้น

การปรับพฤติกรรมเหล่านี้อาจดูเล็กน้อย แต่ส่งผลโดยตรงต่อคุณภาพของไข่และอสุจิ รวมถึงสมดุลของฮอร์โมนในร่างกาย

3. วางแผนรอบประจำเดือนและติดตามการตกไข่

เพราะช่วงเวลาตกไข่คือหัวใจสำคัญของการทำ IUI แพทย์จึงต้องอาศัยข้อมูลจากรอบเดือนและการตรวจอัลตราซาวนด์เพื่อดูขนาดของไข่ หากไข่โตได้ขนาดเหมาะสม แพทย์จะนัดวันฉีดเชื้อในช่วงเวลาที่มีโอกาสปฏิสนธิสูงสุด ดังนั้นการจดบันทึกรอบเดือนอย่างสม่ำเสมอหรือใช้แอปพลิเคชันติดตามการตกไข่จึงช่วยให้การวางแผนเป็นระบบมากขึ้น

4. เตรียมจิตใจให้ผ่อนคลาย

นอกจากสุขภาพกายแล้ว สุขภาพใจก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะความเครียดสามารถส่งผลต่อการตกไข่และฮอร์โมนในร่างกาย ลองหากิจกรรมที่ช่วยผ่อนคลาย เช่น ฟังเพลง นั่งสมาธิ หรือพูดคุยกับคนใกล้ชิด เพื่อสร้างกำลังใจและความมั่นใจในขั้นตอนการทำ IUI การมีมุมมองบวกจะช่วยให้ร่างกายตอบสนองต่อการรักษาได้ดียิ่งขึ้น

5. ปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด

เมื่อเข้าสู่กระบวนการทำ IUI แพทย์อาจให้ยากระตุ้นไข่ หรือยาช่วยเสริมฮอร์โมนบางชนิด ควรรับประทานยาให้ตรงเวลาและมาตรวจติดตามตามนัดทุกครั้ง หลังฉีดเชื้อแล้วแพทย์อาจแนะนำให้พักผ่อนและหลีกเลี่ยงการออกแรงหนักประมาณ 1–2 วัน รวมถึงงดเพศสัมพันธ์ในช่วงเวลาที่กำหนด เพื่อให้มดลูกและไข่พร้อมต่อการฝังตัว

6. ดูแลตัวเองหลังทำ IUI

หลังจากฉีดเชื้อแล้ว ประมาณ 2 สัปดาห์ แพทย์จะนัดตรวจเลือดเพื่อดูผลว่ามีการตั้งครรภ์หรือไม่ ระหว่างนั้นควรพักผ่อนให้เพียงพอ หลีกเลี่ยงการยกของหนัก งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และคาเฟอีน และพยายามไม่เครียดเกินไป เพราะฮอร์โมนความเครียดอาจรบกวนกระบวนการฝังตัวของตัวอ่อน

7. เตรียมใจยอมรับทุกผลลัพธ์

แม้การทำ IUI จะช่วยเพิ่มโอกาสตั้งครรภ์ แต่ก็ไม่สามารถรับประกันผลได้ 100% โดยอัตราความสำเร็จอยู่ที่ประมาณ 10–20% ต่อรอบ ขึ้นอยู่กับอายุของฝ่ายหญิงและสุขภาพโดยรวม หากไม่สำเร็จในครั้งแรก อย่าเพิ่งท้อใจ เพราะแพทย์อาจแนะนำให้ทำซ้ำในรอบถัดไปหรือปรับวิธีรักษาให้เหมาะสมมากขึ้น

การเตรียมตัวก่อนทำ IUI เป็นขั้นตอนสำคัญที่ช่วยให้การรักษามีโอกาสประสบความสำเร็จมากขึ้น ทั้งในด้านสุขภาพกาย การดูแลจิตใจ และการปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างต่อเนื่อง สำหรับคู่รักที่มีปัญหามีบุตรยากในระดับเบื้องต้น การทำ IUI อาจเป็นจุดเริ่มต้นของความหวังใหม่ในการมีลูก และช่วยให้ฝันของการมีครอบครัวสมบูรณ์เข้าใกล้ความจริงมากขึ้น