หลายๆคนคงเคยผ่านการสัมภาษณ์งานมาไม่มากก็น้อย บางคนก็ยังมีผู้ที่ยังไม่ค่อยได้ผ่านประสบการณ์การสัมภาษณ์งานมาหรือไม่เคยสัมภาษณ์งานเลย แต่การสัมภาษณ์งานในทุกวันนี้อาจจะมีการสัมภาษณ์งานที่เป็นภาษาอังกฤษ เนื่องจากภาษาอังกฤษมีความจำเป็นต่อชีวิตการทำงานค่อนข้างมาก ไม่ว่าจะเป็นทั้งการสื่อสาร ทั้งสื่อสารด้วยภาษาหรือสื่อสารด้วยอีเมล์หรือการอ่านการตีความ ดังนั้นในบางบริษัทก็ต้องการผู้ที่มีความสามารถด้านภาษาอังกฤษ แต่จะทราบได้อย่างไรนั้นว่าผู้ที่เข้ามาทำงานเป็นผู้ที่สามารถสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้ หลายๆ บริษัทจึงเลือกที่จะสัมภาษณ์งานเป็นภาษาอังกฤษกัน
แม้แต่คนที่พูดเก่งที่สุดเมื่ออยู่ในภาวะเครียดหรือกดดันก็สามารถเป็นคนที่พูดได้น้อยลงเช่นกัน อันดับแรกที่ต้องพกไปสัมภาษณ์งานก็คือ ความมั่นใจ อาจจะตื่นเต้นบ้างก็ไม่เป็นไรแต่เราต้องมั่นใจเข้าไว้ค่ะ เมื่อเจอคำถามสัมภาษณ์งานแล้วก็ต้องหยุดคิดที่จะตอบก่อนสักนิด ว่าคำตอบแบบใดจะชนะใดผู้สัมภาษณ์ได้ คำถามส่วนใหญ่ที่ผู้สัมภาษณ์จะถามได้แก่
คำถามแรก Tell me about yourself บอกฉันเกี่ยวกับคุณหน่อยสิ
หลังจากการทักทายเสร็จสิ้น เมื่อเจอคำถามนี้นั่นหมายความว่าผู้สัมภาษณ์ต้องการที่จะให้คุณแนะนำและนำเสนอตัวเองเพื่อเป็นการทดสอบว่า คุณเหมาะสมกับบริษัทหรือไม่ สิ่งที่คุณตอบนั้นเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงความเป็นตัวคุณ ตั้งนั้นคำตอบของคำถามนี้อาจจะตอบเกี่ยวกับว่าในบริษัทเก่าคุณเคยทำอะไรมาก่อนหรือตอนฝึกงานฝึกงานที่ไหนเกี่ยวกับอะไรมา เช่นตามตัวอย่าง
I’ve been working as a data-entry at a small travel company for 2 years and my duties included assisting the database along with Hotel contract. I have always been interested in travel industry which was why I chose to follow this career path. I studied at _________ college.
ข้อควรแนะนำไม่ควรจะใช้ภาษาอังกฤษแบบแสลงในการแนะนำตัว
คำถามต่อมา What are your ? อะไรคือจุดแข็งของคุณ
เมื่อผู้สัมภาษณ์งานถามคำถามนี้ ก็คือเขาต้องการที่จะทราบความสามารถหรือข้อดีของคุณ บางครั้งข้อดีอันนี้อาจจะเป็นสิ่งที่ผู้สัมภาษณ์กำลังหาอยู่ก็เป็นได้ ดังนั้นก่อนจะตั้งหน้าตั้งตาไปสัมภาษณ์ก็หาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทที่คุณจะไปสัมภาษณ์สักนิดเพื่อเป็นการทำการบ้านเล็กน้อยและเตรียมคำศัพท์ที่เป็น Adjective คำคุณศัพท์ไว้บ้าง และเตรียมตัวอย่างที่จะสามารถทำให้ผู้สัมภาษณ์เห็นภาพได้ชัดขึ้น
To be punctual – to be on time. เป็นคนตรงต่อเวลา
I’m a punctual person. I always arrive early and complete my work on time. My previous job had a lot of deadlines (time when you must finish something by) and I made sure that I was organized and adhered to (respected) all my jobs.
To be a team-player – to work well with others สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี
. I consider myself to be a team-player. I like to work with other people and I find that it’s much easier to achieve something when everyone works together and communicates well.
นอกจากจุดแข็งตามที่กล่าวไป อีกคำถามหนึ่ง ที่นิยมถามในการสัมภาษณ์คือ What are your weaknesses? จุดอ่อนของคุณคืออะไร
อาจจะเป็นคำถามที่แปลกไปสักหน่อย แต่เชื่อเถอะว่าเขานิยมถามกันจริงๆ เนื่องจากผู้ถูกสัมภาษณ์ส่วนใหญ่แล้วจะเตรียมแต่ข้อดีมาเพื่อเป็นการเตรียมตัวสัมภาษณ์แต่ต้องอย่าลืมว่าคนเราทุกคนก็ต้องมีจุดอ่อนเช่นกัน แล้วเราจะตอบอย่างไรดี วิธีการง่ายๆ คือการเปลี่ยนวิธีการตอบที่เป็นจุดอ่อนนั้นให้กลายเป็นจุดอ่อนในแง่บวกแทน ตัวอย่างคือปกติแล้วหากเราเป็นคนทำงานช้า ก็จะตอบว่า my weakness is that you spend too much time on projects which makes you work slower แต่แทนที่จะตอบเช่นนี้ให้ดูไม่ดี ให้ตอบว่า I sometimes am slower in completing my tasks compared to others because I really want to get things right. I will double or sometimes triple-check documents and files to make sure everything is accurate . แทนเป็นการเปลี่ยนข้อด้อยของเราให้กลายเป็นจุดแข็งที่ผู้สัมภาษณ์อาจจะเลือกเราไปร่วมงานกับบริษัทเขาก็ได้
คำถามสุดท้าย อาจจะเป็นคำถามที่หินที่สุด Why did you leave your last job? ทำไมถึงออกจากงานที่เก่าเสียละ
เป็นคำถามที่ค่อนข้างยากพอสมควร แต่ถ้าเรารู้จักเลือกคำตอบที่ดีแล้ว คำถามแง่ลบในลักษณะนี้ก็มีคำตอบในแง่บวกได้เช่นกัน ผู้สัมภาษณ์อาจจะถามคำถามคล้ายๆกันนี้เช่น Did you leave because you were fired? คุณโดนไล่ออกหรือเปล่า were you laid off? คุณถูกเลิกจ้างหรือเปล่า หรือ Did you quit? คุณลาออกเองใช่ไหม ถ้าคำตอบคือคุณเลือกที่จะลาออกเอง สิ่งต้องห้ามอย่างมากในการตอบคำถามนี้คือ การให้คำตอบในแง่ร้ายเกี่ยวกับที่ทำงานเก่าหรือเจ้านายเก่าของคุณ แต่คุณสามารถตอบตามคำตอบต่อไปนี้แทน
I’m looking for new challenges. ฉันกำลังค้นหาความท้าทายใหม่ๆ
I feel I wasn’t able to show my talents. รู้สึกว่าที่เก่าไม่สามารถทำให้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ได้
I’m looking for a job that suits my qualifications. เพื่อหางานใหม่ที่เหมาะสมกับเรามากกว่า
I’m looking for a job where I can grow with the company. ตามหางานที่สามารถเติบโตไปพร้อมกับบริษัทได้
คำถามเหล่านี้เป็นเพียงตัวอย่างสำหรับการสัมภาษณ์งานบางส่วนเท่านั้น ซึ่งแต่ละคำถามอาจจะมีหลากหลายรูปแบบแตกต่างออกกันไป แต่ที่ไม่เปลี่ยนแน่ๆคือเนื้อความของคำถามนั้นที่ยังคงเดิมอยู่นั้นเอง สำหรับท่านที่กำลังอ่านบทความนี้อยู่ ขอให้โชคดีในการสัมภาษณ์งานนะคะ
หรือหากจะหาไอเดียเพื่อให้คำตอบของเราสามารถตอบคำถามได้อย่างคม ๆ ลองศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับคำคมภาษาอังกฤษ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะสามารถช่วยคุณให้ผ่านการสัมภาษณ์งานได้อย่างฉลุย