สวัสดีค่ะ วันนี้แอดมินได้นำความรู้เกี่ยวกับเรื่องอาการก่อนที่ผู้หญิงอย่างเราๆจะเป็นประจำเดือน หรือที่เราเรียกกันติดปากว่า”อาการก่อนมีรอบเดือน” หรือ “อาการก่อนเป็นเมนส์” มาฝากกันค่ะ
อาการก่อนมีรอบเดือนหรือก่อนจะเป็นประจำเดือนของผู้หญิงที่พบส่วนใหญ่นั้น ไม่ว่าจะเป็น อาการปวดท้องหน่วงๆ อาการปวดหัว อารมณ์แปรปรวน รู้สึกหงุดหงิดง่าย โมโหง่าย เป็นอาการเริ่มต้นของการเป็นประจำเดือน ซึ่งมีชื่อว่า PMS หรือ Premenstrual Syndrome เป็นอาการทางกาย พฤติกรรม และอารมณ์ที่เกิดขึ้นก่อนการเป็นประจําเดือน อาจมีอาการได้ถึง 2 สัปดาห์ก่อนการเป็นประจําเดือน อาการจะดีขึ้นและหมดไปเมื่อประจําเดือนมา 2–3 วัน
อาการก่อนเป็นประจำเดือน(PMS : Premenstrual Syndrome) จะแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม นั่นก็คือ
- อาการที่แสดงออกมาทางด้านจิตใจ เช่น มีอารมณ์หงุดหงิด โมโหง่าย เครียด รู้สึกซึมเศร้า โดยไม่มีสาเหตุ ฉุนเฉียวง่าย ไม่อยากทำอะไร กังวล อ่อนไหว คุมตัวเองไม่ได้
- อาการที่แสดงออกมาทางด้านร่างกาย เช่น น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น ปวดท้องน้อย รู้สึกเจ็บและคัดตึงที่เต้านม มือและเท้าบวม ปวดตา ปวดข้อ ปวดหลัง รู้สึกอ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตามร่างกาย
ปัจจัยเสี่ยงต่อการทำให้เกิดอาการก่อนเป็นประจำเดือน
- คนที่ดื่มชา กาแฟ มากๆ เป็นประจำ
- คนที่มีภาวะเครียดอยู่เสมอ
- คนที่มีภาวะซึมเศร้า
- คนที่ไม่ชอบทานผักใบเขียวเข้ม นมถั่วเหลือ เต้าหู้ ธัญพืชเต็มเมล็ด ซึ่งมีส่วนประกอบของ แคลเซียม และแมกนีเซียม
วิธีป้องกัน อาการก่อนเป็นประจำเดือน
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ สามารถช่วยบรรเทาอาการ และป้องกันอาการก่อนมีประจำเดือนได้ เนื่องจากขณะที่เราออกกำลังกาย ร่างกายจะหลั่งสารเอ็นโดรฟิน (Endorphine) ซึ่งทำให้เรามีความสุข ไม่กังวล ไม่เครียด และไม่ซึมเศร้า
- เลือกรับประทานอาหารที่มีวิตามิน และเกลือแร่ให้ครบถ้วน เช่น ผักใบเขียว ผลไม้
- เลือกทานเฉพาะอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตที่มีประโยชน์ คือ ข้าวที่ไม่ขัดสี ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ
- ลดอาหารหวานจัด ชา กาแฟ และแอลกอฮอล์
- ลดความเครียดด้วยวิธีที่ตัวเองชอบ เช่น ออกไปเดินเล่นนอกบ้านบ้าง ดูทีวี อ่านหนังสือ ฟังเพลง หรือนั่งสมาธิก็ได้ค่ะ
หมายเหตุ : คนที่มีอาการปวดท้องมาก ปวดหัวมากๆ หรือมีอาการที่กล่าวมาข้างต้นหนักๆ ให้รีบไปปรึกษาแพทย์นะคะ ปล่อยไว้นานๆอาจทำให้เป็นอันตรายได้ค่ะ