เนื้อลิปสติก! เรื่องควรรู้ในการเลือกลิปให้เหมาะกับผิวปาก

ลิปสติกถือเป็นบิวตี้ไอเท็มคู่ใจของใครหลายคน เพราะแค่การทาลิปก็สามารถเปลี่ยนลุคให้ดูสดใสขึ้นได้ทันที แต่เชื่อว่าหลายคนอาจเจอปัญหาเลือกซื้อลิปตามรีวิวหรือคำแนะนำของ Beauty Blogger แล้วกลับไม่ได้เฉดสีที่สดใสเหมือนกับที่รีวิว ซึ่งบางทีนั่นอาจเป็นเพราะ “เนื้อลิปสติก” ก็เป็นได้

ทำไม “เนื้อลิปสติก” ถึงสำคัญ

การเลือกลิปสติกไม่ได้ขึ้นอยู่กับสีเพียงอย่างเดียว เพราะความจริงแล้วเนื้อสัมผัสของลิปสติก ก็มีผลต่อทั้งความชุ่มชื้น ความติดทน และความสวยของริมฝีปากโดยตรง หากเลือกเนื้อแมตต์ในวันที่ปากแห้ง ก็อาจทำให้ลิปตกร่องและเห็นรอยแตกชัด ในทางกลับกัน หากเลือกเนื้อกลอสในวันที่ต้องการลุคเป๊ะติดทน สีอาจหลุดง่ายระหว่างวัน

ดังนั้น การเลือกเนื้อลิปให้เหมาะกับสภาพผิวปากจึงเป็นเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะจะช่วยให้ลิปสติกดูสวยอย่างเป็นธรรมชาติและให้ผลลัพธ์ตรงใจมากที่สุด

ประเภทของเนื้อลิปสติกยอดนิยม

เนื้อลิปสติกมีหลายรูปแบบ แต่ละแบบให้สัมผัสและผลลัพธ์ที่แตกต่างกันไป มาดูกันว่าจะมีแบบไหนบ้างและแต่ละแบบเหมาะกับใคร

• ลิปสติกเนื้อครีม (Creamy Lipstick)

ลิปเนื้อครีม เป็นแบบคลาสสิกที่หลายคนชอบ เพราะเนื้อนุ่ม ทาง่าย ให้สีสดชัดระดับปานกลางไปจนถึงมาก และมีความชุ่มชื้นในตัวสูง เหมาะกับคนที่มีริมฝีปากแห้งหรือมีร่องเล็กๆ เพราะเนื้อครีมจะช่วยกลบผิวปากให้ดูเรียบเนียนมากขึ้น ข้อดีคือไม่ทำให้ปากลอกหรือแตกง่าย แต่ข้อเสียคืออาจไม่ติดทนเท่าลิปแมตต์ ต้องคอยเติมระหว่างวัน

• ลิปสติกเนื้อแมตต์ (Matte Lipstick)

ลิปแมตต์ คือทางเลือกยอดนิยมของคนที่ชอบความเป๊ะและสีแน่น เนื้อสัมผัสแห้งสนิท ดูคมชัด เหมาะสำหรับวันที่ต้องการให้ลิปอยู่กับเราทั้งวัน แต่ก็ต้องระวังเรื่องความชุ่มชื้น เพราะเนื้อแมตต์มักทำให้ริมฝีปากแห้ง หากเป็นคนปากลอกง่ายควรบำรุงด้วยลิปบาล์มก่อนทา จะช่วยให้ลิปดูสวยและไม่ตกร่อง

ลิปสติกเนื้อซาติน (Satin Lipstick)

ลิปเนื้อซาติน เป็นจุดกึ่งกลางระหว่างแมตต์กับครีม ให้ความรู้สึกเรียบเนียนแต่ยังมีความเงาเล็กน้อย จึงได้ลุคที่ดูเป็นธรรมชาติและมีมิติ เหมาะกับทุกสภาพริมฝีปาก โดยเฉพาะคนที่อยากได้ลิปที่ดูไม่แห้งเกินไปและยังคงความติดทนในระดับดี เป็นเนื้อลิปที่เหมาะสำหรับใช้ในชีวิตประจำวัน

• ลิปกลอส (Lip Gloss)

สำหรับใครที่อยากได้ลุคปากอวบอิ่มดูสุขภาพดี ลิปกลอสคือตัวเลือกที่ตอบโจทย์ เพราะให้ความเงาวาวแบบกระจกสะท้อนแสงทันทีที่ทา เหมาะกับคนที่มีริมฝีปากแห้งหรือซีด เพราะช่วยให้ปากดูมีชีวิตชีวา แต่ข้อเสียคือหลุดง่ายและไม่เหมาะกับคนที่ต้องพูดหรือต้องจิบน้ำบ่อยๆ ตลอดวัน

• ลิปทิ้นท์ (Lip Tint)

ลิปทิ้นท์ ให้สีบางเบาแต่ติดทนนาน เหมาะกับลุคธรรมชาติสไตล์เกาหลี จุดเด่นคือสีจะซึมเข้าริมฝีปาก ทำให้ดูเหมือนสีปากจริง เหมาะกับคนที่ไม่ชอบความรู้สึกหนาของลิปสติก แต่ควรระวังเรื่องความแห้ง เพราะบางสูตรอาจทำให้ริมฝีปากแห้งลอกได้ ควรลงบาล์มบางๆ ก่อนใช้เสมอ

• ลิปบาล์มมีสี (Tinted Lip Balm)

ใครที่ต้องการลุคเป็นธรรมชาติเหมือนไม่ได้แต่งหน้า ลิปบาล์มแบบมีสีคือตัวเลือกที่เหมาะที่สุด ด้วยเนื้อสัมผัสเบาสบาย ให้ความชุ่มชื้นสูง พร้อมเพิ่มสีบางๆ ให้ริมฝีปากดูมีสุขภาพดี เหมาะกับการใช้ในวันสบายๆ หรือระหว่างวันเมื่อต้องการเติมความชุ่มชื้นโดยไม่ต้องทาลิปเต็มขั้น

เลือกเนื้อลิปให้เหมาะกับผิวปากของคุณ

การรู้จักลักษณะผิวปากของตัวเอง จะช่วยให้เลือกเนื้อลิปได้เหมาะสมและดูสวยแบบไม่ต้องพยายามมาก ดังนั้น ก่อนตัดสินใจซื้อลิปสติก ลองสังเกตลักษณะของริมฝีปากตัวเองก่อนว่าเป็นแบบไหน เช่น

• หากปากแห้งและมีร่อง ควรเลือกเนื้อครีมหรือซาตินที่ให้ความชุ่มชื้น
• หากปากคล้ำ ควรใช้เนื้อแมตต์หรือซาตินที่สีแน่น เพื่อกลบสีปากได้ดี
• หากปากซีดหรือดูไม่มีชีวิตชีวา ลองใช้ลิปกลอสหรือทิ้นท์ จะช่วยเพิ่มมิติและความสดใส
• ส่วนใครที่ริมฝีปากสุขภาพดี สามารถใช้ได้ทุกเนื้อ ขึ้นอยู่กับลุคที่ต้องการ

ลิปที่ใช่ไม่ใช่แค่สี แต่ต้องเหมาะกับผิวปากด้วย

การเลือกลิปสติกที่ดีไม่ใช่แค่การเลือกสีที่ชอบแล้วจบ แต่คือการเข้าใจสภาพริมฝีปากของตัวเองและเลือกเนื้อลิปสติกที่ตอบโจทย์ทั้งความสวยและสุขภาพผิวปาก เพราะลิปที่เหมาะจะช่วยเสริมลุคให้ดูมั่นใจขึ้น และยังช่วยปกป้องริมฝีปากให้คงความชุ่มชื้นได้ในทุกวัน