ทองเค คืออะไร ?
คำถามแรกที่คนส่วนใหญ่มักสงสัย คือ ทองเคใช่ทองคำแท้หรือไม่? คำตอบก็คือ ใช่ค่ะ ทองเค คือทองคำแท้ แต่จะแท้กี่เปอร์เซ็นนั้นอยู่ที่ว่ามีส่วนผสมของทองอยู่กี่เปอร์เซ็นต์ คำว่า เค (K) นั้นเป็นคำย่อมาจาก หน่วยค่าของทอง คือ คำว่า “Karat” หรือ กะรัต นั่นเองจ้า
คนไทยส่วนใหญ่มักเข้าใจว่า คำว่า กะรัต นั้นเป็นหน่วยของเพชร แต่จริงๆแล้วทองก็มีหน่วยเรียกเป็นกะรัตเช่นเดียวกัน แต่ใช้ภาษาเขียนคนละอย่าง คำว่า กะรัต เป็นหน่วยเรียกของทั้ง เพชร และ ทอง ออกเสียงเหมือนกันค่ะ แต่จะเขียนต่างกันเท่านั้นเอง โดยหน่วยการเรียกค่าของเพชรจะใช้คำว่า “Carat” อ่านว่ากะรัตและมีตัวย่อเป็น CT แต่ค่าของทองจะใช้ตัวย่อเป็น K หรือ K-Gold แต่นิยมเรียกกันสั้นๆ ย่อๆ ว่า ทองเค(K) นั่นเอง
กะรัตทองนั้น สำหรับทองคำบริสุทธิ์ที่นิยมซื้อกันในประเทศไทยเราก็คือ ทองคำ 96.5% จะมีหน่วยกะรัตหรือ เค อยู่ 23.16K ซึ่งทองชนิดนี้เราจะสังเกตได้ว่า เป็นทองที่นำมาทำทองรูปพรรณโดยมีลวดลายและขึ้นรูปอยู่ในเนื้อทอง และไม่ค่อยนิยมประดับอัญมณีอื่น ๆ ลงไปบนเรือนทอง ถ้าจะประดับบ้างก็เพียงเม็ดเล็ก ๆ เท่านั้น เนื้องจากเนื้อของทองจะเหลว ไม่มีความแข็งแรงคงทนในการเกาะอัญมณีอื่น ๆ ค่ะ
ซึ่งหากเป็นงานตามร้านเพชรหรือจิวเวลรี่ต่างๆ จะใช้จำนวนค่าเปอร์เซ็นต์ของเนื้อทองที่ไม่เยอะนัก เนื่องจากจะทำให้เครื่องประดับมีความแข็งแรงพอที่จะทำให้อัญมณีเม็ดเล็ก ๆ ทั้งหลาย สามารถยึดเกาะได้ดีโดยไม่ลื่นหลุดออกมานั่นเอง โดยส่วนใหญ่แล้วตามร้านเพชรจะมีค่าของทองเคอยู่ที่ 8K , 9K , 10K , 14K และ 18K ส่วนใหญ่เน้นทอง 18K เพราะมีความแข็งมากกว่า คงทนกว่า แล้วก็เนื้อมีความเงางามมากกว่าค่ะ ถ้าใครต้องการซื้อเครื่องประดับทองมาใส่เล่นเพื่อความสวยงาม หรือเป็นแหวนแต่งงานที่ใช้งานได้นานๆ ไม่ได้เน้นไว้ออมหรือลงทุนเก็งกำไร ทองKก็เป็นอีกทางเลือกที่จะทำให้ได้เลือกซื้อเครื่องประดับที่สวยงาม ไม่ลอกไม่ดำ คงทนเช่นทองแต่มีราคาย่อมเยากว่าทองค่ะ
การเปรียบเทียบทองเคกับเปอร์เซ็นต์ทอง ที่นิยมจำหน่ายในประเทศไทยจะเปรียบเทียบได้ดังนี้
ทอง 24K มีเนื้อทอง เท่ากับ 99.99%
ทอง 23K มีเนื้อทอง เท่ากับ 96.5%
ทอง 18K มีเนื้อทอง เท่ากับ 75.00%
ทอง 14K มีเนื้อทอง เท่ากับ 58.33%
ทอง 10K มีเนื้อทอง เท่ากับ 41.67%
ทอง 9K มีเนื้อทอง เท่ากับ 37.50%
และทองที่ขายอยู่ตามร้านทองส่วนใหญ่ จะเป็นทอง 96.5% นั่นก็คือประมาณ ทอง 23K
ทองเคขายได้ไหม ?
ถ้าถามว่าทองเคขายได้ไหม? นั้น ตอบเลยว่า ขายได้แน่นอนค่ะ แต่จะขายได้ราคามากหรือน้อยนั้นจะขึ้นอยู่กับเปอร์เซ็นKอีกทีนึงค่ะ ถ้าเป็นทอง 96.5% นั้น ส่วนใหญ่แล้วนั้นทางร้านทองจะอิงราคาการรับซื้อ และขายออกจากเว็บไซต์ของสมาคมทองคำที่ประกาศในเวลานั้นๆ เป็นหลัก โดยแต่ละร้านก็จะมีหักค่าน้ำประสานทอง หรือค่าหลอม หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าค่าลายทองนั่นเองค่ะ ในส่วนนี้จะถูกคิดที่ไม่เกิน 5% ของราคารับซื้อวันนั้นๆ
และถ้าเป็นทองเคอื่นๆ แต่ละร้านก็จะมีการคำนวณการรับซื้อที่แตกต่างกันไปแล้วแต่ร้านค่ะ อย่างทอง 18K ถ้าเราอยากขายได้ราคาดีหน่อย แอดมินแนะนำให้เรานำกลับไปขายร้านเดิมที่เราซื้อมาค่ะ เพราะแต่ละร้านที่ทำแหวนเพชร หรือทอง18Kขายนั้น แต่ละร้านต่างก็มีประกันทองของตัวเองทุกร้านค่ะ ซื้อไปในราคาเท่านี้รับประกันขายคืนได้เท่านี้ อะไรประมาณนี้ค่ะ เพื่อที่จะดึงดูดให้ลูกค้าเข้ามาเลือกซื้อมาชอปที่ร้านของตัวเอง เรียกว่าเป็นการตลาดอีกแบบหนึ่งของทางร้าน และเป็นการการันตีเครื่องประดับที่เราซื้อจากทางร้านอีกด้วยค่ะ
สรุปแล้วนั้น ทองK ที่ใครหลาย ๆ คนบอกว่าคือทองปลอม จริง ๆ แล้ว ทองเค คือ ทองคำแท้ ๆ นั่นเองค่ะ ดังนั้น หากถามว่าทองK สามารถจำนำได้ไหม ตอบแบบรัว ๆ เลยว่าจำนำได้แน่นอน **แต่ส่วนมากจะรับเป็นทอง 18K ขึ้นไปจ้า**
ทองเคลอกไหม ?
หลายคนคำถามว่า แล้วทองเค ลอกไหม? มีบ้างค่ะ(บางชิ้นลอก บางชิ้นนานมากๆ หรือบางชิ้นไม่ลอกเลยก็มีค่ะ) แต่ก็ขึ้นอยู่กับการดูแล และการใช้งานของแต่ละบุคคลด้วยนะคะ และ เครื่องประดับชุบทุกชิ้นมีอายุการใช้งาน ทั้งนี้ขึ้นกับเทคโนโลยีในการชุบ ซึ่งมีหลายแบบ จึงทำให้ความทนทานต่างกันค่ะ ส่วนใช้ได้นานหรือไม่นั้น ขึ้นกับวิธีการชุบของโรงงานด้วย อันนี้ตอบอยากเพราะมีหลายแบบและแตกต่างกัน เพราะลอกไม่ลอกขึ้นอยู่กับความหนาของทองที่ชุบอีกทีด้วยค่ะ ถ้าระดับ 3-5 ไมครอน เจอเหงื่อเค็ม ๆ อย่างไรก็ลอก อย่างน้อยต้อง 5 ไมครอนขึ้นไปถึงจะอยู่ได้นานหน่อย แต่ถึงอย่างไรก็ต้องลอกสักวันเพราะมันไม่ใข่ทองแท้ ๆ ทั้งก้อนจ้า
4 วิธี ตรวจทองแท้หรือปลอม ทำเองได้ง่าย ๆ
ในการตรวจดูว่าทองแท้หรือปลอมนั้น สามารดูได้ด้วย 4 วิธี ดังต่อไปนี้ได้เลยค่ะ เป็นวิธีที่ตรวจได้ทั้งทองคำและทองเคเลยนะคะ
1. มองหาตราแสตมป์ หรือโค้ดตอกตราต่างๆ ที่เจอบ่อยๆ ถ้าของไทยก็มีตัวเลข 96.5% , 90% ต่างประเทศก็จะเป็นตัวเลข 99.99% , 750 , 585 , 18k, 14k, 10k, 9k ประมาณนี้ พยายามมองหาตัวเลขเหล่านี้ก่อนอันดับแรกค่ะ เพราะตัวเลขพวกนี้ จะบ่งบอกถึงเปอร์เซนต์บนเครื่องประดับของเรา โดยส่วนใหญ่แล้วทั้งงานไทยและงานต่างประเทศ จะตอกโค้ด หรือตรากำกับไว้เกือบหมดทุกเส้นเลยค่ะ
2. ใช้แม่เหล็กทดสอบ วิธีนี้เป็นการตรวจสอบที่ง่ายอีกวิธีหนึ่งค่ะ แม่เหล็กจะไม่ทำปฏิกริยากับทองคำ ถ้าหากใช้แม่เหล็กดูดแล้วติด แสดงว่านั่นเป็นทองปลอมค่ะ
3. ใช้ภาชนะดินเผาแบบไม่เคลือบ หรือจะเป็นหินแท่งที่เราใช้ฝนมีดขูดทดสอบ ด้วยทองคำมีลักษณะเป็นแร่ที่มันวาว ผิวหน้าสัมผัสจะนิ่ม พอขูดไปปุ๊บ ผิวทองก็จะไปติดที่ภาชนะดินเดา หรือแผ่นหิน จะเห็นเป็นสีทองๆประกายมันวาวติดอยู่ เปรียบเทียบขูดกับโลหะทดสอบชนิดอื่น จะเห็นเป็นรอยขูดด้านๆ ไม่มันวาวสะท้อนแสง เวลาพลิกดู
4. ใช้กรดทดสอบ วิธีนี้จะชัวร์ที่สุดค่ะ แต่…วิธีนี้ควรใช้ความระมัดระวังอย่างสูงนะคะ ไม่แนะนำให้ทำถ้าไม่มีความรู้ ความชำนาญพอค่ะ เพราะกรดมีความอันตรายสูง กรดทดสอบนี้จะทำปฏิกริยากับโลหะอื่นๆที่ไม่ใช่ทอง วิธีเช็คเราจะใช้ทองที่นำมาตรวจสอบขูดลงบนแท่งหิน แล้วใช้กรดหยดทดสอบ ถ้ารอยขูดบนแท่งหินมันหายไปโดยฉับพลันก็แสดงว่าของปลอม ซึ่งถ้าหากเป็นทองคำจะไม่เกิดปฏิกริยาใดๆเลยจ้า
เป็นอย่างไรกันบ้างคะ สาระความรู้ในวันนี้ แอดมินหวังว่าความรู้ที่แอดมินได้นำมาฝากกันจะเป็นประโยชน์ให้กับทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ ฝากทุกคนติดตาม เป็นกำลังใจให้แอดมินได้สร้างสรรผลงานชิ้นต่อไปด้วยน๊า อยากให้แอดมินเขียนเกี่ยวกับอะไรสามารถคอมเม้นไว้ด้านล่างได้เลยนะคะ
บทความดีมากๆเลยค่ะ ขอบคุณมากนะคะ ?
ขอบคุณสำหรับกำลังใจมักมากเลยค่า