ประเทศไทยของเรา เมื่อก่อนเคยมีชื่อว่าสยามประเทศ กว่าจะมาเป็นสยามประเทศจนถึงทุกวันนี้ บรรพบุรุษของเราได้เสียเลือดเสียเนื้อกันไปเป็นจำนวนมากมายมหาศาล พวกเขาเหล่านั้นได้แลกชีวิตเพื่อที่จะให้ลูกหลานอย่างเราๆมีชีวิตที่จะอยู่ต่อ มีแผ่นดินที่อยู่ และที่เป็นที่กล่าวขานในเรื่องของการรบมากที่สุดคือ หมู่บ้านบางระจัน พวกเขาทำศึกไม่รู้ต่อกี่ครั้งจนกว่าจะมาถึงในวันนี้ วีรบุรุษแห่งหมู่บ้านบางระจันโด่งดังอยู่ในหนังสือประวัติศาสตร์ที่เราได้อ่าน อยู่ในเรื่องเล่าที่คนเฒ่าคนแก่เล่าสู่ให้ลูกหลานฟัง และในยุคปัจจุบันที่เหตุการณ์เหล่านั้นถูกนำมาทำเป็นละคร เป็นที่กล่าวขานกันขานกันจนถึงทุกวันนี้ ทำให้เราได้ระลึกถึงเหตุการณ์เหล่านั้นได้อีกครั้ง กับการทำศึกของหมู่บ้านบางระจัน หากจะถามว่าบางระจันทำศึกกี่ครั้ง ทราบหรือไม่ว่าบางระจันกว่าจะมาเป็นทุกวันนี้ บางระจันทำศึกศึกกับไปถึง 8 ครั้งด้วยกัน
- บางระจันทำศึกครั้งที่ 1 ครั้งนี้เป็นครั้งที่พม่านั้นมากันประมาณร้อยคนเศษ และถึงแม้ว่าฝั่งของเราจะมีเพียงแค่อาวุธสั้นเท่านั้น ด้วยความไม่รู้ตัวและไม่ระวังตัวทำให้พม่าต้องเสียชีวิตไปทั้งหมดด้วยการตะลุมบอนอาวุธสั้นของฝั่งไทย
- บางระจันทำศึกครั้งที่ 2 พม่าจัดกำลังพลมากขึ้นจากเดิมเป็น 500-700 คนแต่ก็ไม่วายที่จะพ่ายแพ้ไป บ้านบางระจันตีค่ายพม่าที่บุกมาจนต้องพ่ายแพ้กลับไปอีกครั้ง
- บางระจันทำศึกครั้งที่ 3 ก็มีความคล้ายกับการทำศึกครั้งที่ 2 ครั้งนี้พม่าวางแผนมาอย่างดี เพิ่มกำลังพลให้มากขึ้นเพราะจะประมาทให้กับชาวบ้านบางระจันไม่ได้แล้ว แต่ก็เป็นเช่นเดิม พม่าก็พ่ายแพ้กลับไปอีกครั้ง
- บางระจันทำศึกครั้งที่ 4 เป็นการรบของชาวบ้านบางระจันที่มีการเล่าขานกันมากที่สุด เพราะพม่าหลังจากที่ได้พ่ายแพ้ไปหลายต่อหลายครั้ง ก็หยุดรบแค่เพียง 2-3 วันก็เพิ่มกำลังพลขึ้นมาใหม่ให้มากเป็นพัน หวังจะให้กำลังพลของบางระจันไม่ทันได้เตรียมตัว แต่ถึงแม้กลุ่มชาวบ้านบางระจันจะมีกำลังพลที่น้อยกว่าก็สามารถเอาชนะพม่าได้ ทั้งสองฝั่งรบกันตั้งแต่เช้าจนเที่ยง เกิดอาการอ่อนล้า ในขณะที่ฝ่ายพม่าเห็นศพ และกำลังพักผ่อนโดยที่ไม่ทันระวังตัว มีกลุ่มของไทยเข้าไปสอดแนมและเข้าโจมตีพม่าแบบที่ไม่ทันได้ตั้งตัว เรียกได้ว่ารอบคอบและมีความฉลาดในการรบกับคู่ต่อสู้เป็นอย่างมาก
- บางระจันทำศึกครั้งที่ 5 พม่าได้มีการเตรียมตัวเพื่อการรบอย่างแข็งแกร่ง เพื่อความไม่ประมาท คราวนี้ชาวบ้านบางระจันเป็นผู้พ่ายต่อศึกครั้งนี้
- บางระจันทำศึกครั้งที่ 6 จนกระทั่งมาถึงศึกครั้งนี้ที่ไทยเอาชนะกำลังพลร้อยเศษได้อย่างง่ายดาย
- บางระจันทำศึกครั้งที่ 7 เป็นศึกที่มีการสูญเสียมากจนทำให้พม่าหยุดรบไปแรมเดือน ทั้งนี้ก็เพราะความฉลาดของแม่ทัพฝั่งไทยเราคือนายจัน หนวดเขี้ยว ที่วางแผนตีค่ายพม่า ตั้งแต่ที่พม่ายังไม่ทันได้ตั้งตัวหรือว่าตั้งค่ายเสร็จ
- บางระจันทำศึกครั้งที่ 8 เป็นศึกที่ฝั่งบางระจันนั้นแตกพ่ายไปโดยที่แม่ทัพของพม่านั้นเคยเป็นคนไทยมาก่อน แต่แปรผันตัวเองกลายเป็นแม่ทัพของพม่า รู้ทุกจุดอ่อนของกลุ่มชาวบ้านบางระจันดีว่าจะต้องจัดการด้วยวิธีไหน ซึ่งครั้งนี้พม่ารอตั้งรับการรบอยู่แต่ในเพียงค่ายของตัวเองเท่านั้นจึงทำให้ชาวบ้านบางระจันล้มตาย ไปพร้อมกับวีรบุรุษของเราหลายคนที่รบจนเลือดหยดสุดท้าย
เราจะเห็นได้ว่า ถึงแม้ว่าเราจะพ่ายแพ้ให้แก่พม่า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าไยเราแตกความสามัคคีแต่อย่างใด เพราะอย่างน้อยๆเราก็เอาชนะข้าศึกได้หลายครั้ง เรื่องราวที่เล่าต่อกันมาเป็นคำสอนให้กับลูกหลานที่อยู่ในยุคปัจจุบันได้ว่าจะต้องมีแต่ความสามัคคีกันเท่านั้นที่จะพาให้ประเทศไทยอยู่รอด
แหล่งอ้างอิง: http://dara.trueid.net/detail/127285