ผู้หญิงกับความสวยความงามเป็นเรื่องที่ต้องมาคู่กันเหมือนกับคำโบราณที่ว่า “ไก่งามเพราะขนคนงามเพราะแต่ง” ยิ่งทุกวันนี้ยิ่งต้องแข่งกันสวย เป็นผู้หญิงอย่างเราจะหยุดสวยไม่ได้ วันนี้แอดมินจันทร์ไทยบล็อกเราก็เลยจะมานำเสนอสูตรสมุนไพรขัดผิวสำหรับคุณผู้หญิงอย่างเรา สาเหตุที่เลือกสูตรที่เป็นสมุนไพรก็เพราะว่ามันจะได้สวยมาจากข้างในและเป็นธรรมชาติทำให้ความสวยของผิวอยู่กับเราไปนาน ๆ
สมุนไพรอะไรบ้างที่นิยมนำมาขัดผิว
นับเป็นโชคดีของบ้านเรา ที่มีสมุนไพรหลากหลายชนิดมากที่สามารถนำมาใช้ในด้านความสวยความงาม เช่นการดูแลผิวพรรณของผู้หญิง สมุนไพรที่นิยมนำมาขัดผิว ได้แก่ กากกาแฟ ขมิ้น ผงกาแฟ ผงขมิ้น มะขามเปียก โสม เป็นต้น วันนี้แอดมินจึงได้รวบรวมสาระความรู้ดี ๆ เกี่ยวกับการใช้สมุนไพรเหล่านี้มาฝาก บ้านไหนที่มีสมุนไพรตัวไหนก็สามารถเลือกใช้แล้วก็ลองทำตามได้เลยค่ะ
การขัดผิวด้วยกากกาแฟ
สครับกาแฟ หรือการขัดผิวด้วยกากกาแฟ เป็นหนึ่งในสูตรความงามที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย ซึ่งนอกจากประโยชน์ที่ครอบจักรวาลในด้านอื่นๆ แล้ว สาวๆ มักจะนำเอามาใช้เป็นส่วนประกอบสำหรับขัดผิวหน้า ขัดตัว หรือใช้พอกตามจุดที่คล้ำเสีย หรือเป็นสิวได้อีกด้วย
กากกาแฟสามารถนำไปขัดผิวได้ เพราะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ ทำหน้าที่เสมือนเป็นตัวขจัดพิษให้กับผิวชั้นนอก และกระตุ้นการทำงานของเซลล์ผิวชั้นใน ปรับสภาพความดันโลหิตและกระตุ้นการเผาผลาญไขมันใต้ชั้นผิว ทำให้ผิวดูเปล่งปลั่งและกากกาแฟนี้ไม่รุนแรงต่อผิวเหมือน สครับที่เป็นเกลือ
กากกาแฟนั้นสามารถนำมาขัด หรือสครับผิวกายของเราได้ทุกส่วนของร่างกายอย่างไม่จำกัดเลยค่ะ บางคนนำมาขัดแผ่นหลัง บางคนนำมาขัดและมา์คหน้า บางคนขัดทั้งตัว สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการเลย แล้วแต่เราจะเลือกใช้ได้เลยจ้า ส่วนประกอบของสครับกาแฟ ไม่จำเป็นต้องซื้อหามาในราคาแพง เพียงแค่มี “กากกาแฟ” เป็นส่วนประกอบหลัก ร่วมกับส่วนผสมอื่นๆ ตามคุณสมบัติของการขัดผิวที่ต้องการ หาได้ง่ายทั่วไปตามครัวเรือนหรือในท้องตลาด เช่น กากกาแฟผสมน้ำผึ้ง กากกาแฟผสมมะขามเปียกและขมิ้น กากกาแฟผสมนมสดหรือโยเกิร์ต หรือเราจะขัดด้วยกากกาแฟเพรียวๆ เลยก็ได้จ้า รับรองว่านี่จะเป็นสูตรดูแลผิวที่ประหยัด แต่ให้คุณภาพคับแก้วไม่แพ้ครีมสครับราคาแพงอย่างแน่นอนค่ะ ลองทำตามกันดูน๊า
การขัดผิวด้วยมะขามเปียก
มะขามเปียก สมุนไพรคู่ครัวไทยที่มีสรรพคุณเป็นกรด มี AHA ในปริมาณที่สามารถใช้ขัดผิวหน้า ผิวตัว หรือแม้กระทั่งจุดแห้งกร้าน ให้เนียนนุ่ม และดูขาวใสขึ้นได้ ถ้าใช้ให้ถูกวิธี มะขามเปียกเป็นวัตุดิบที่หาได้ง่ายมากๆเลยตามบ้านเรือนของเรา หรือตามท้องตลาด เพราะมะขามเปียกนั้นไม่ใช่แค่นิยมนำมาใช้ในด้านความงามเท่านั้น แต่โดยปกติแล้วคนไทยเรานิยมนำมาใช้ประกอบอาหารอีกด้วย พูดกันได้เลยว่าเป็นวัตุดิบในการทำกับข้าวที่ทุกบ้านต้องมีติดบ้านกันเลยจ้า
สำหรับมะขามเปียกที่เรานำมาใช้ขัดผิวนั้น จะเป็นมะขามที่มีรสเปรี้ยว ในมะขามมีสารที่เรียกว่ากรด AHA (Alpha hydroxyl acids) ที่ช่วยให้ผลัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพพร้อมกระตุ้นให้เกิดเซลล์ใหม่ที่ทำให้ผิวขาว และเนียนนุ่มมากขึ้น และมะขามเป็นอาหารผิวชั้นดีเลย เพราะในมะขามนั้นอุดมไปด้วยวิตามินชนิดต่าง ๆ อาทิ วิตามิน A B2 C ฟอสฟอรัส ไขมัน โปรตีน แคลเซียม กรดซิตริก และกรดทาทาริค ซึ่งเป็นวิตามินที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดูแลผิว และยังช่วยลดฝ้า กระ จุดด่างดำและริ้วรอย ลดความหยาบกร้านตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้ดีอีกด้วยจ้า
การขัดผิวด้วยขมิ้น
ขมิ้น เป็นพืชที่มีเหง้าหรือหัวอยู่ใต้ดิน เนื้อของหัวขมิ้นจะมีสีเหลืองเข้มไปจนถึงสีแสด เอกลักษณ์ที่เด่นชัด คือ รสชาติที่จัดจ้าน สีสันมีความสวยงาม อีกทั้งยังได้มีการนำเอาสมุนไพรหลากหลายชนิด มาประยุกต์ผสมผสานลงไปในอาหารไทย ทำให้ได้รสชาติที่ดูแตกต่างแต่ลงตัว เมื่อพูดถึงเรื่อง สมุนไพร ที่คนไทยนิยมนำมาทำอาหาร เราคงจะพลาดที่จะเอ่ยถึง ขมิ้น ไม่ได้เลย เพราะว่าเป็นอีกหนึ่งวัตถุดิบที่ทำให้อาหารมีสีสันสะดุดตา ตลอดจนมีสรรพคุณทางยาที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายอีกด้วย
สำหรับขมิ้นที่เรานำมาใช้ในการขัดผิวนั้น จะเป็นหัวขมิ้นที่แก่แล้ว ก่อนที่เราจะใช้ทุกครั้งต้องล้างทำความสะอาดก่อนเสมอ หลังจากนั้นนำมาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ เสร็จแล้วนำไปบดหรือโขลกให้ละเอียด แต่สำหรับบางกรณีที่ใช้เป็นยาทาแมลงกัดต่อย เราสามารถใช้เป็นชิ้นๆ หรือเป็นแผ่นๆ แปะลงบนแผลได้เลย
ส่วนใหญ่แล้วขมิ้นจะถูกนิยมนำมาเป็นส่วนประกอบ ผสมกับสมุนไพรตัวอื่นในการสครับผิว หรือขัดผิว เพื่อที่จะไม่ให้ออกสีของขมิ้นจนเกินไป เพราะขมิ้นนั้นจะมีสีเหลืองที่ติดผิวดีมากๆ เช่น สูตรขมิ้นผสมน้ำผึ้ง ขมิ้นผสมมะขามเปียก ขมิ้นผสมกากกาแฟ ขมิ้นผสมนมสด เป็นต้น และขมิ้นสามารถใช้พอกหรือขัดเพรียวๆที่หน้าเลยก็ได้เช่นกันค่ะ โดยส่วนใหญ่แล้วจะนิยมนำมาพอกหน้า เพราะขมิ้น จะช่วยสมานแผลที่เกิดจากสิวอักเสบ สิวอุดตัน ผดผื่นตามใบหน้าได้ดี
การใช้เบกกิ้งโซดาขัดผิว
เบกกิ้งโซดา เป็นอีกหนึ่งไอเทมเด็ดที่มีติดบ้านแทบทุกบ้านเลยก็ว่าได้ เพราะนอกจากจะมีประโยชน์ในหลายๆ ด้านแล้ว ประโยชน์ของเบกกิ้งโซดาในด้านความงามก็เป็นเริสไม่แพ้สิ่งอื่นใดเลยทีเดียว ซึ่งหาซื้อได้ตาม 7-11 หรือตามห้างได้เลย
เบกกิ้งโซดาสามารถนำมาขัดผิวหน้าได้ เพียงขัดผิวหน้าอาทิตย์ละ 1-2 ครั้ง ก็จะทำให้ผิวหน้ากระจ่างใส เพียงแค่เรานำเบกกิ้งโซดามาผสมกับน้ำสะอาดแล้วขัดที่หน้าเบาๆ จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด แค่นี้ก็จะทำให้ผิวหน้าของเราเนียนใสขึ้นได้แล้วจ้า และแค่นั้นยังไม่พอ เบกกิ้งโซดายังสามารถนำมาขัดผิวกายได้ด้วย โดยใช้สูตรเดียวกันเลย จะเป็นการขัดเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกไปจากร่างกายของเรา โดยควรทำอาทิตย์ละ 1 ครั้งนะคะ การผลัดเซลล์ผิวไม่เป็นเพียงการทำความสะอาดผิวอย่างเดียว แต่ยังช่วยให้ผลิตภัณฑ์ที่เราใช้เพื่อบำรุงผิว ทำงานได้ดียิ่งขึ้นด้วยน๊า เพราะฉะนั้นสาวๆ คนไหนอยากสวยในราคาประหยัด โดยเฉพาะการมีผิวขาวใสทั้งผิวหน้าและผิวกาย เลือกขัดผิวด้วยสูตรจากเบกกิ้งโซดาได้เช่นกันน๊า รับรองไม่มีผิดหวังแน่นอนค่ะ
เคล็ดลับการขัดผิวด้วยผลิตภัณฑ์จากสมุนไพร
ปัจจุบันนี้สมุนไพรที่เรานำมาใช้สดๆ อาจจะมีอายุการใช้งานน้อยเก็บได้ไม่นาน หรืออาจจะนำมาตุน หรือซื้อไว้ทีละเยอะๆไม่ได้ เพราะจะทำให้ตัวสมุนไพรนั้นเกิดการเน่าเสีย หรือหมดอายุได้ ปัจจุบันจึงได้มีการปรับเปลี่ยนวิธีการเก็บรักษาในรูปแบบใหม่ โดยส่วนใหญ่จะนิยมนำสมุนไพรเหล่านี้มาแปรรูปให้อยู่ได้นานมากขึ้น ในรูปแบบของผลิตภัณฑ์ต่างๆ แทนการใช้แบบสด
และในวันนี้แอดมินมีผลิตภัณฑ์ประเภทสครับสมุนไพรดีๆมาแนะนำกันด้วยนะคะ ตัวนี้แอดมินแอบใช้แล้วติดใจ เพราะสครับตัวนี้ใช้แล้วผิวนุ่มมากๆ(แอบกระซิบนิดนึงว่าหลังจากที่แอดมินใช้ต่อเนื่องหมดกระปุกนึง ผิวคือขาวใสออร่ามากค่ะ) เนื้อสครับน้องละเอียดไม่บาดผิว กลิ่นน้องจะหอมละมุนสุดๆ ซึ่งในส่วนประกอบของน้องนั้น จะประกอบไปด้วยสมุนไพรออแกนิกล้วนๆ ได้แก่ มะขาม ขมิ้น โสม และนม ค่ะ น้องจะช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าเผยผิวใหม่ ช่วยทำให้ผิวของเรากระจ่างใสตั้งแต่ครั้งแรกที่ใช้เลย น้องจะเป็นสูตรอ่อนโยนต่อผิวนะคะ ใครที่ผิวแพ้ง่ายใช้ได้สบายเลยจ้า ใช้แล้วอาจจะตกหลุมรักน้องเหมือนแอดมินก็ได้เด้อ ใครสนใจลองตามไปสั่งมาใช้กันดูน๊า ราคาไม่แพงแถมใช้ได้นานมากๆค่ะ เดี๋ยวแอดมินจะแปะไลน์ร้านไว้ให้นะคะ กดไปที่ปุ่มเพิ่มเพิ่อนด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
เป็นข้อมูลที่ดีมากๆ ติดตามตลอดจ้า